หน้าแรก อะห์ลุลบัยต์ อัล-กุรอ่านกับอะห์ลุลบัยต์ ไม่อาจแยกออกจากกันได้ เพราะอะไร..?

อัล-กุรอ่านกับอะห์ลุลบัยต์ ไม่อาจแยกออกจากกันได้ เพราะอะไร..?

227

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ

อัล-กุรอ่านกับอะห์ลุลบัยต์ ไม่อาจแยกออกจากกันได้ เพราะอะไร..?

divider

อัล-กุรอ่าน และ อะห์ลุลบัยต์ ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ เพราะอะไร..?

ท่านศาสดามุฮัมมัด ศ. เรียกสองสิ่งนี้ว่า “ษะก่อลัยน์” [สิ่งหนักสองประการ] ดังปรากฎในฮะดิษมุตะวาตีร สิ่งหนักสองประการ และสิ่งนี้คือ มรดกของท่านนบี ศ. ที่ทิ้งไว้ให้กับอุมมะฮ์ ประชาชาติของท่าน และตราบใดที่สองอย่างนี้อยู่ด้วยกันกับใคร เขาคนนั้นจะถูกรับรองความปลอดภัยจะการหลงผิด

“แท้จริง ฉันได้ละทิ้งสิ่งหนัก สองประการไว้ในหมู่พวกท่าน นั่นคือ คัมภีร์ของอัลลอฮ์ และอะฮ์ลุลบัยต์ของฉัน ตราบเท่าที่พวกท่านยึดถือสิ่งทั้งสอง พวกท่านจะไม่หลงผิดอย่างเด็ดขาด ภายหลังจากฉัน และทั้งสองประการจะไม่แยกจากกัน จนกระทั่งย้อนกลับไปยังฉัน ณ อัลเฮาฎ์”

แต่ก็เป็นที่ตกตะลึง เมื่อมีคนกลุ่มหนึ่งพยายามแยก “ษะก่อลัยน์” ออกจากกัน นั่นคือแยกอัลกุรอ่านออกจากอะห์ลุลบัยต์ และกล่าวกับท่านนบี ศ. ว่า “ฮัสบุนา กิตาบัลลอฮ์ อัลกุรอ่านอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว !!” และพวกเขาก็ทำเช่นนั้นจริงๆ จนในที่สุดพวกเขาก็เสนอตัวเองขึ้นมาเทียบเคียงกับอัลกุรอ่านแทนที่อะห์ลุลบัยต์นบี เสียเอง !! ผลที่ตามมา ความยุ่งเหยิง ,ความแตกแยก ,ความเกลียดชังต่อกันในอุมมะฮ์ของท่านบี ศ. จึงปรากฏให้เห็นจนถึงทุกวันนี้ เพราะอัลลอฮ์ ซ.บ. ทรงเตือนพวกเขาไว้แล้วว่า

 لا يَمَسُّهُ إِلَّا الْمُطَهَّرُونَ  ไม่มีใครสัมผัส(เข้าใจ)คัมภีร์ได้นอกจากผู้บริสุทธิ์

อะห์ลุลบัยต์ คือ ผู้บริสุทธิ์ [مُطَهَّرُونَ] ตามที่อัลลอฮ์ได้ทรงลงตราประทับรับรองไว้

«اِنَّمَا يُريٖدُ اللّٰهُ لِيُذْهِبَ عَنْكُمُ الرِّجْسَ اهْلَ الْبَيْتِ وَ يُطَهِّرَكُمْ تَطْهيٖراً»

แต่มาบัดนี้ พวกเขาได้กีดกัน ผู้บริสุทธิ์(อะห์ลุลบัยต์)ออกไปจากคัมภีร์อัลกุรอ่าน และละทิ้งคำสั่งเสียของท่านนบี ศ. ใน “ษะก่อลัยน์” เสียแล้ว

มาดูบางตัวอย่างของความยุ่งเหยิงเหล่านั้น หลังจากที่พวกเขาได้แยกษะก่อลัยน์ออกจากัน

ในหมู่ชาวซุนนี่ห์มีการถกเถียงกันว่า “บิสมิลละฮ์-بسم الله” เป็นส่วนหนึ่งของซูเราะห์อัล-ฟาติฮะห์ หรือไม่ ? กลุ่มชาฟีอีย์ กล่าวว่า เป็นอายะฮ์หนึ่งของซูเราะห์อัล-ฟาติฮะห์ และจำเป็นต้องอ่านเสียงดังในนมาซ แต่ส่วนหนึ่งก็บอกว่า ให้อ่านด้วยเสียงค่อย บางกลุ่มบอกว่า “บิสมิลละฮ์ฯ” ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของซูเราะห์อัลฟาติอะฮ์ ไม่จำเป็นต้องอ่านมันในนมาซ !!!!!

นี้คือหนึ่งตัวอย่างของความยุ่งเหยิงในการปฎิบัติศาสนกิจทางศาสนา เมื่อพวกเขาได้แยก ษะก่อลัยน์ ออกจากกัน แล้วนำสิ่งอื่นไปแทนที่

เมื่อมีการถาม อะห์ลุลบัยต์นบี  ว่า ควรอ่าน บิสมิละฮ์ฯ อย่างไร..? ได้รับคำตอบว่า บิสมิลละฮ์ฯ เป็นอายะหนึ่งของซูเราะห์ฟาติฮะห์ และทุกครั้งที่อ่าน บิสมิลละฮ์ฯ ต้องอ่านด้วยเสียงดังๆ เพราะหมู่ชัยฎอน จะเตลิด และแตกเพ่นพ่านหนีไป เมื่อได้ยันเสียงนี้

มุสลิมต่างยกคำพูดของท่านศาสดา ศ. ที่ได้กล่าวไว้ว่า

كلُّ أمرٍ ذي بالٍ لا يُبدأُ فيه ببسمِ اللهِ الرحمنِ الرحيمِ فهو أقْطَعُ

ทุกๆกิจการงานที่สำคัญยิ่ง หากไม่ได้เริ่มต้นด้วย “บิสมิลละฮ์ฯ” สิ่งนั้นจะถูกตัดขาด(ตัดขาดจากความเมตตา ,ความช่วยเหลือ ,ความสำเร็จจากอัลลอฮ์)

อัลลอฮ์ทรงตรัสว่า การงานใดก็แล้วแต่ที่พวกเจ้าคิดว่าสำคัญ ก็จงเริ่มต้นด้วยกับ พระนามของอัลอฮ์ บิสมิลละฮ์ฯ ไม่เช่นนั้นแล้ว พระองค์จะไม่รับรองการงานนั้นอย่างเด็ดขาด

แล้วการนมาซไม่ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกท่านหรือ ? แน่นอนนมาซคือ การงานที่ดีที่สุดสำหรับมุสลิม แล้วเหตุไฉน จึงตัด บิสมิลละฮ์ ออกจาการนมาซ ? หรือ ให้อ่านแค่ใช้น้ำเสียงเบา ๆ ?!!!!!

ทีนี้พอจะมองออกกันหรือยังว่า ทำไมท่านนบี ศ. เตือนเอาไว้ว่า “อัลกุรอ่าน และ อะห์ลุลบัยต์ ไม่สามารถแยกออกจากกันได้” ?  ท่าน ศ. จึงเรียกขานทั้งสองอย่างว่า “ษะก่อลัยน์” [สิ่งหนักสองประการ]