กำเนิดศาสนาอิสลาม เมื่อศาสดามุฮัมหมัด ศ. อายุได้ 40 ปี เริ่มประกาศสาส์นแห่งสันติภาพให้มวลมนุษย์ชาติ เพื่อเป็นการตอบรับต่อคำบัญชาแห่งสวรรค์ ท่านศาสดาจึงเริ่มเผยโครงการอันสำคัญยิ่งที่เรียกว่า “ อิสลาม ” ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของมนุษยชาติไปตลอดกาล
![]()
ประวัติศาสตร์อิสลาม [ประวัติศาสดามุฮัมมัด-บทที่ 8] ตอน:กำเนิดอิสลามด้วยการแต่งตั้ง “มุฮัมมัด” ให้เป็นศาสนทูตของอัลลอฮ์
เมื่อศาสดามุฮัมหมัด ศ. อายุได้ 40 ปี ท่านได้รับบัญชามาจากพระเจ้าโดยผ่านทางญิบรออีล ของพระองค์เพื่อประกาศถึงความเป็นเอกะของพระองค์ต่อพวกกราบไหว้เทวรูปและพวกตั้งภาคีที่มีอยู่ทั่วโลก และประกาศสาส์นแห่งสันติภาพให้มวลมนุษย์ชาติที่ฝักใฝ่อยู่กับการสู้รบ เพื่อเป็นการตอบรับต่อคำบัญชาแห่งสวรรค์ ท่านศาสดาจึงเริ่มเผยโครงการอันสำคัญยิ่งที่เรียกว่า “ อิสลาม ” ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของมนุษยชาติไปตลอดกาล
ก่อนที่จะมีพระบัญชามายังท่านให้ประกาศถึงเอกภาพของพระผู้สร้าง ท่านศาสดามักจะใช้เวลา นาน ๆ ในการบำเพ็ญภาวนาและการเพ่งพินิจ เพื่อให้ปลอดพ้นจากกการถูกรบกวนและการดึงดูดความสนใจไปสู่เรื่องอื่น ท่านจึงมักจะไปที่ถ้ำเขาแห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า “ ฮิรอ ” ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากนครมักกะฮ์ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเป็นระยะทางสามไมล์ โดยท่านได้ใช้วันเวลาในช่วงฤดูร้อนอันยาวนาน ณ สถานที่นั้น วันหนึ่งขณะที่ท่านอยู่ที่ถ้ำฮิรอ ญิบรออีลได้มาปรากฏตัวต่อหน้าท่าน และนำข่าวอันประเสริฐมาแจ้งต่อท่านว่า พระเจ้าได้ทรงเลือกท่านให้เป็นศาสนทูตองค์สุดท้ายของโลกและได้ทรงมอบหมายภารกิจให้กับท่าน เพื่อนำมนุษยชาติให้ออกห่างจากความหนักหนาของบาปกรรม ความผิดพลาดและความโง่เขลามาสู่แสงสว่างแห่งทางนำ สัจธรรมและความรู้ ญิบรออีลจึงขอให้ท่าน “ อ่าน ” โองการดังต่อไปนี้
اقْرَأْ بِاسْمِ رَبِّكَ الَّذِي خَلَقَ خَلَقَ الْإِنسَانَ مِنْ عَلَقٍ اقْرَأْ وَرَبُّكَ الْأَكْرَمُ الَّذِي عَلَّمَ بِالْقَلَمِ عَلَّمَ الْإِنسَانَ مَا لَمْ يَعْلَمْ
จงอ่านเถิด ในพระนามแห่งองค์อภิบาลของเจ้า ผู้ทรงบันดาล พระองค์ทรงบันดาลมนุษย์มาจากก้อนเนื้อ จงอ่านเถิด และองค์อภิบาลของเจ้าผู้ทรงเอื้อเฟื้อยิ่งนัก ซึ่งทรงสอนความรู้ด้วยปากกา พระองค์ทรงสอนมนุษย์ในสิ่งที่เขาไม่รู้
โองการทั้งห้าเหล่านี้ ถือเป็นการวิวรณ์ครั้งแรกที่ถูกประทานลงมาให้กับท่านศาสดาในคืนแห่งความจำเริญในเดือนรอมฏอนของปีที่ 40 แห่งปีช้าง ปรากฏอยู่ที่โองการแรกของ ซูเราะห์ อิกเราะห์

ท่านศาสดา ศ. ได้ให้การต้อนรับญิบรออีลประดุจดังว่าท่านกำลังรอคอยเขาอยู่ ญิบรออีลนำข่าวอันประเสริฐมาว่า พระเจ้าได้ทรงเลือกสรรท่านให้เป็นศาสนทูตองค์สุดท้ายของพระองค์เพื่อมวลมนุษยชาติ และได้รับเกียรตที่สูงส่งที่สุดมีสำหรับสิ่งมีชีวิตในโลกนี้
ท่านไม่ได้ลังเลใจที่จะน้อมรับภารกิจของการเป็นศาสนทูต และก็ไม่ได้มีความยากลำบากใดๆต่อการกล่าวตามโองการต่างๆของการวิวรณ์ในครั้งแรก ( ดังปรากฏหลักฐานอยู่กับมุสลิมสายซุนนี ) ท่านได้อ่านตามซ้ำได้อย่างสบาย ๆ เป็นธรรมชาติจริง ๆ แล้ว ญิบรออีลไม่ใช่ผู้แปลกหน้าสำหรับท่านแต่อย่างใด และท่านตระหนักดีเช่นกันว่าปฐมเหตุของตัวท่านก็คือ การปฏิบัติภารกิจในหน้าที่ที่พระเจ้าทรงมอบหมายให้แก่ท่านในฐานะศาสนทูตของพระองค์ ท่านเป็น “ ผู้ดำเนินภารกิจ ” ก่อนที่ญิบรออีลจะมาเยือนเสียอีก ญิบรออีลเพียงแต่มาส่งให้สัญญาณให้ท่านเริ่มงานเท่านั้นเอง
ถึงกระนั้นท่านศาสดา ก็รู้สึกตระหนกต่อความยิ่งใหญ่ของภาระของท่าน ท่านตระหนักดีว่าในการทำหน้าที่ของท่านนั้น ท่านจะต้องเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงกันข้ามที่เป็นพวกป่าเถื่อนที่มีพลังมีความเด็ดเดี่ยว จำนวนมหาศาล สภาพท่าน ท่านวิตกกังวลนั้นท่านแทบจะสัมผัสถึงมันได้ ดังนั้นด้วยสภาพจิตใจที่เป็นกังวลของท่าน ท่านจึงละออกจากถ้ำเพื่อกลับไปบ้าน และท่านได้ขอให้ท่านหญิงคอดีญะฮ์คลุมร่างของท่านไว้ด้วยผ้าห่ม ขณะที่ท่านนั่งเพื่อเล่าเรื่องราว ถึงเหตุการณ์ ณ ถ้ำเขาฮิรอให้ท่านหญิงฟัง
เมื่อคอดีญะฮ์รับฟังเรื่องราวที่ท่านศาสดาเล่า ท่านหญิงได้ปลอบประโลมท่าน และยืนยันต่อท่านว่า “ โอ้ผู้เป็นบุตรของลุงของฉัน จงทำใจให้แข้มแข็งไว้เถิด พระเจ้าทรงเลือกท่านให้เป็นศาสนทูตของพระองค์ ท่านเป็นผู้ให้ความเมตตาแก่คนยากจนอยู่เสมอ คอยช่วยเหลือญาติมิตรของท่าน มีใจเมตตาต่อลูกกำพร้า หญิงหม้ายและคนยากจน และเป็นมิตรกับคนแปลกหน้า พระเจ้าย่อมไม่ทอดทิ้งท่านอย่างแน่นอน ”
เป็นไปได้ว่าท่านศาสดามีความรู้สึกที่หนักหน่วงอยู่ในขณะนั้นด้วยกับความคิดคำนึงถึงภาระหน้าที่ของท่านที่มีต่อพระเจ้า ที่จะต้องดำเนินการในความรับผิดชอบงานใหม่ของท่านที่ถือเป็นภาระกิจอันใหญ่หลวง แต่เมื่อท่านได้ยินคำปลอบโยนของคอดีญะฮ์ ท่านก็รู้สึกผ่อนคลายจากความกดดันไปในทันที ท่านหญิงได้ให้การยืนยันรับรองต่อท่านและชี้ชวนท่านว่า ด้วยพระหัตถ์ของพระองค์ที่ทรงวางอยู่บนบ่าของท่านนั้น ท่านย่อมจะพุ่งทะยานขึ้นสู้ระดับเดียวกับภาระกิจของท่าน และย่อมจะผ่านพ้นอุปสรรคทั้งปวงไปได้
หลังจากที่ได้หยุดไปเป็นระยะหนึ่ง ญิบรออีลก็กลับมาปรากฏตัวต่อท่านศาสดา อีกครั้งหนึ่ง เมื่อท่านกลับไปประจำอยู่ที่ถ้ำฮิรอ ถือเป็นสัญญาณให้ท่านเริ่มทำงาน ญิบรออีลได้แสดงให้ท่านได้เห็นถึงภารกิจของท่าน สิ่งที่สำคัญเป็นอันดับแรกสุดคือ การทำลายล้างการกราบไหว้พระเจ้าจอมปลอม และเป็นการปักธงนำแห่ง “ เตาฮีด ” นั่นคือคำสอนของความเป็นเอกภาพของพระผู้สร้างลงบนพื้นพิภพ และท่านต้องเชิญชวนมนุษย์ชาติมาสู่การศรัทธาที่แท้จริงนั่นคือ อิสลาม อิสลาม หมายถึง การยอมจำนนต่อพระประสงค์ของพระเจ้าและการยอมรับมุฮัมมัดเป็นบ่าวของพระองค์และเป็นศาสนทูตของพระองค์
เย็นวันนั้นท่านศาสดากลับบ้านด้วยกับสำนึกและมีความซื่อสัตย์ต่อภาระหน้าที่ใหม่ของท่านคือการเผยแผ่อิสลาม และท่านต้องเริ่มต้นจากบ้านของท่านเองก่อน นั้นคือการประกาศสิ่งนี้ให้แก่ภรรยาของท่าน
ท่านศาสดาบอกกับภรรยาของท่านถึงการมาเยือนเป็นครั้งที่สองของญิบรออีล และหน้าที่ที่พระเจ้าได้ทรงมอบหมายให้ท่านเชิญชวนท่านหญิงสู่อิสลาม สำหรับคอดีญะฮ์นั้นแล้วประวัติความเป็นมาและความซื่อสัตย์มั่นคงในทางศีลธรรมของสามีของนางนั้นย่อมเป็นข้อพิสูจน์ที่ไม่อาจโต้เถียงได้ว่าท่านเป็นศาสนทูต ของพระเจ้า และท่านหญิงก็พร้อมที่จะรับอิสลาม จริง ๆ แล้วระหว่างท่านหญิงกับอิสลามอันเป็นอุดมการณ์ที่อยู่คู่กัน ได้มีปรากฏอยู่ก่อนแล้ว เพราะฉะนั้นเมื่อท่านนำอิสลามมาเสนอให้กับท่านหญิง ท่านหญิงจึงระลึกได้ในทันทีและยอมรับมันอย่างแช่มชื่น ท่านหญิงเชื่อว่าพระผู้สร้างมีเพียงหนึ่งเดียวและมุฮัมมัดเป็น ศาสนทูตของพระองค์ และท่านหญิงได้ประกาศว่า
ฉันขอปฏิญาณตนว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดเว้นแต่อัลลอฮ์องค์เดียว และฉันขอปฏิญาณตนว่า มุฮัมมัดเป็นบ่าวของพระองค์และเป็นศาสนทูตของพระองค์
มุฮัมมัดศาสนทูตของพระเจ้า ได้ทำให้มีบุคคลที่เข้ารับอิสลามเป็นคนแรกได้สำเร็จ คือคอดีญะฮ์ภรรยาของท่านเอง ท่านหญิงเป็นบุคคลแรกเลยทีเดียวที่ยืนยันการศรัทธาในหลักเตาฮีด และท่านหญิงเป็นคนแรกเลยทีเดียวที่ยอมรับมุฮัมมัดเป็นศาสนทูตของพระเจ้าที่ถูกส่งลงมายังมวลมนุษย์ท่านหญิงเป็นมุสลิมะฮ์คนแรก
เนื่องจากอิมามอาลีเป็นสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัวของท่านศาสดา เขาจึงเป็นคนแรกในหมู่ผู้ชายที่น้อมรับสาส์นของอิสลามอย่างไม่ต้องสงสัย เขาได้กล่าวปฏิญาณตนว่า พระเจ้ามีเพียงองค์เดียวและ มุฮัมมัดเป็นศาสนทูตของพระองค์ และเขาเป็นคนที่มีความกระหายอย่างยิ่งที่จะยืนอยู่ด้านหลังของมุฮัมมัดเพื่อการทำนมาซ นับแต่นั้นมาไม่เคยเลยที่ท่านศาสดาจะยืนนมาซโดยไม่มีอาลียืนร่วมอยู่ด้วย เด็กชายผู้นี้ท่องจำโองการต่าง ๆ ของอัลกุรอาน ตามที่ได้ถูกวิวรณ์ลงมาให้กับท่านศาสดา เขาเติบโตขึ้นมาพร้อมกับความรู้ในอัลกุรอาน ว่ากันจริง ๆ แล้วอาลีกับอัลกุรอานเติบโตขึ้นมาด้วยกันเสมือนเป็นคู่แฝดในบ้านของท่านศาสดากับท่านหญิงคอดีญะฮ์ มุฮัมมัดศาสนทูตแห่พระเจ้าได้พบกับมุสลิมะฮ์คนแรกในตัวของคอดีญะฮ์และมุสลิมคนแรกในตัวของอะลี บุตรของอบูฏอลิบ
		
		



![กิจกรรมช่วงบ่ายวันอาชูรอ ชุมชนมัสยิดดารุซซะฮ์รอ อ. [ร่วมเดินเท้ารำลึกถึงกองคาราวานท่านหญิงซัยหนับ]](https://mubahala.net/wp-content/uploads/2022/08/298769655_599667181566282_3179114266681750340_n-1-100x75.jpg)








![นมาซอีดฆอดีรคุมม์[صلاة يوم الغدير] มัสยิดดารุซซะฮ์รอ อ. จังหวัดพัทลุง ประจำปี 2565](https://mubahala.net/wp-content/uploads/2022/07/294432275_5756173964392743_3521794929438557682_n-100x75.jpg)
