ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ
ความบริสุทธิ์ปราศจากบาป(อัล-อิศมะฮ์)ของบรรดาอิมามแห่งอะห์ลุลบัยต์
![]()
ความบริสุทธิ์ปราศจากบาป(อัล-อิศมะฮ์)ของบรรดาอิมามแห่งอะห์ลุลบัยต์
ชาวชีอะฮ์กล่าวว่า เราเชื่อถือว่าบรรดาอิมามแห่งอะห์ลุลบัยต์นั้น เหมือนกับท่านนบี ศ. ตรงที่จำเป็นต้องมี สภาพมะอ์ศูม (ถูกปกป้องให้ปลอดพ้นจากความบาป ปลอดพ้นจากความชั่วช้าทุกประการ ทั้งที่เปิดเผยและไม่เปิดเผย) นับตั้งแต่ถือกำเนิดจนกระทั่งตาย จะโดยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม ขณะเดียวกันก็จำเป็นจะต้องมีสภาพมะอฺศูมพ้นจากความเผลอไผล ความผิดพลาด และการลืมเลือน เพราะบรรดาอิมามคือผู้พิทักษ์รักษาบทบัญญัติ และเป็นผู้ดำรงตนให้อยู่ในหลักการนั้น
เช่นเดียวกับสภาวะของท่านนบี ศ. และหลักฐานที่ทำให้เราเชื่อถือว่า บรรดานบี ศ. มีสภาพอิศมะฮฺนั้น คือหลักฐานตัวเดียวกันที่ทำให้เราเชื่อในเรื่องสภาพอิศมะฮฺของบรรดาอิมาม โดยไม่มีการแบ่งแยกแต่อย่างใดเลย
อัล-กุรอ่านพิสูจน์ความเป็นผู้บริสุทธิ์(อัล-อิศมะฮ์)ของบรรดาอิมาม ได้อย่างไร ?
إِنَّمَا يُرِيدُ اللَّهُ لِيُذْهِبَ عَنكُمُ الرِّجْسَ أَهْلَ الْبَيْتِ وَيُطَهِّرَكُمْ تَطْهِيرًا
“อันที่จริงแล้ว อัลลอฮ์ประสงค์จะขจัดความมลทินออกไป ก็เพียงแต่จากพวกสูเจ้าเท่านั้น โอ้ อะฮ์ลุลบัยต์ และทรงชำระขัดเกลาพวกสูเจ้าให้สะอาดบริสุทธิ์” (อัล-อะฮฺซาบ / 33)
ดังนั้นถ้าหากการขจัดมลทินอันหมายถึงความชั่วต่างๆ ทั้งหมดให้พ้นออกไปและการชำระขัดเกลาให้สะอาดปราศจากความบาปทุกประการ มิได้หมายความถึงสภาพ อิศมะฮ์ แล้วมันจะหมายความว่าอย่างไร ?
อัลลอฮ์ ซ.บ. ทรงมีโองการว่า
ثُمَّ أَوْرَثْنَا الْكِتَابَ الَّذِينَ اصْطَفَيْنَا مِنْ عِبَادِنَا
“หลังจากนั้น เราได้มอบมรดกแห่งคัมภีร์ให้ตกทอดไปยังบรรดาผู้ที่เราได้คัดเลือกไว้ จากบรรดาปวงบ่าวของเรา” (ฟาฏิร / 32)
และผู้ซึ่งอัลลอฮ์ ซ.บ. ทรงคัดเลือกไว้นั้นจะต้องไม่สงสัยเลยว่า เขาคือผู้ได้รับการคุ้มครองให้พ้นจากความผิดพลาด และโองการเดียวกันนี้เองที่ท่านอิมามริฎอ อ. หนึ่งในบรรดาอิมามแห่งอะฮฺลุลบัยต์ อ. ได้นำมาอ้างกับบรรดานักปราชญ์ที่ค่อลีฟะฮฺ มะอ์มูน บินฮารูน ในตระกูลอับบาซียะฮ์เรียกมาประชุม ท่านอิมาม อ. ได้ยืนยันให้บรรดานักปราชญ์เหล่านั้นยอมรับว่า บรรดาอิมามแห่งอะฮ์ลุลบัยต์ นั่นเอง คือกลุ่มบุคคลที่ถูกหมายถึง ตามความหมายของโองการนี้
และนั่นก็หมายถึง อัลลอฮ์ ซ.บ. ทรงคัดเลือกพวกเขาเหล่านั้น และทรงมอบมรดกทางวิชาการแห่งคัมภีร์ให้ตกทอดมายังพวกเขา ซึ่งบรรดานักปราชญ์เหล่านั้นก็ได้ยอมรับต่อท่านในเรื่องนี้
ตัวอย่างบางประการเหล่านี้จากโองการอัล-กุรอาน เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ยังมีโองการอื่นๆ อีกมากที่ให้ความหมายถึงสภาพอิศมะฮฺของบรรดาอิมาม ซึ่งผู้อ่านสามารถค้นคว้าเพิ่มเติมได้ในเรื่องนี้
อัล-ฮะดิษพิสูจน์ความเป็นผู้บริสุทธิ์(อัล-อิศมะฮ์)ของบรรดาอิมาม ได้อย่างไร ?
หลังจากเสนอตัวบทจากอัล-กุรอานอันทรงเกียรติแล้ว ก็ขอให้ท่านพิจารณาดูในซุนนะฮฺของท่านนบี ศ. ต่อไป
ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ ศ. ได้กล่าวว่า
قَالَ رَسُولُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ: إِنِّي تَارِكٌ فِيكُمُ الثَّقَلَيْنِ : كِتَابَ اللهِ ، وَأَهْلَ بَيْتِي ، وَإِنَّهُمَا لَنْ يَتَفَرَّقَا حَتَّى يَرِدَا عَلَيَّ الْحَوْضَ
ดังที่ท่านได้เห็นมาแล้วอย่างแจ่มชัดว่า นี่คือหลักฐานที่แสดงว่าบรรดาอิมามแห่งอะฮฺลุลบัยต์ นั้น คือผู้ได้รับการปกป้องให้พ้นจากความผิดบาป เพราะเหตุว่า
- คัมภีร์ของอัลลอฮ์ ซ.บ. เป็นมะอ์ศูม ไม่มีความผิดพลาดกล้ำกลาย ไม่ว่าจากทางเบื้องหน้า และไม่ว่าจากทางเบื้องหลังก็ตาม เพราะนั่นคือพจนารถของอัลลอฮ์ ซ.บ. และผู้ใดก็ตามสงสัยในเรื่องนี้เท่ากับเขาเป็นผู้ปฏิเสธศาสนา
- เพราะเหตุว่าผู้ยึดถือ ษะก่อลัยน์ นี้ (คัมภีร์และเชื้อสายนบี) จะปลอดภัยจากความหลงผิด ดังนั้นฮะดีษนี้จึงเป็นหลักฐานที่แสดงว่า ทั้งคัมภีร์อัล-กุรอาน และเชื้อสายของท่านนบี ศ. นั้น ไม่บังควรแก่สิ่งทั้งสองที่จะมีความผิดพลาด
ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ ได้กล่าวว่า
ตามที่ทุกท่านได้เห็นอย่างชัดเจนมาแล้ว แสดงว่า บรรดาอิมามแห่งอะฮฺลุลบัยต์ อ. นั้น เป็นผู้ถูกปกป้องให้พ้นจากความบาป ด้วยเหตุนี้เอง ทุกคนที่ขึ้นขี่ลำนาวาของพวกเขาจะได้รับความปลอดพ้นและปลอดภัย แต่ทุกคนที่รั้งตัวเองไว้ไม่ยอมขึ้นขี่ลำนาวาของพวกเขาก็จะจมอยู่ในความหลงผิด




![กิจกรรมช่วงบ่ายวันอาชูรอ ชุมชนมัสยิดดารุซซะฮ์รอ อ. [ร่วมเดินเท้ารำลึกถึงกองคาราวานท่านหญิงซัยหนับ]](https://mubahala.net/wp-content/uploads/2022/08/298769655_599667181566282_3179114266681750340_n-1-100x75.jpg)





![ฮะดีษลำนาวา[سفینه]ในตำราของชาวซุนนี่ห์](https://mubahala.net/wp-content/uploads/2022/04/464233444444-100x75.jpg)



