หน้าแรก ประวัติศาสตร์ อัตชีวประวัติ 14 มะฮ์ซูม ตอน การถือกำเนิดศาสดามุฮัมมัด ศ.

อัตชีวประวัติ 14 มะฮ์ซูม[ประวัติศาสดามุฮัมมัด-บทที่ 4] ตอน การถือกำเนิดศาสดามุฮัมมัด ศ.

331

กำเนิดศาสดามุฮัมมัด ศ. ท่านศาสดามุฮัมมัด ศ. เกิดที่นครมักกะฮ์ ประเทศซาอุดิอารเบีย ซึ่งเป็นประเทศที่ตั้งอยู่แถบตะวันออกกลาง เกิดเมื่อเวลาเช้าตรู่ของวันที่ 17 เดือนร่อบีอุ้ลเอาวัล ปีช้าง ซึ่งตรงกับ พ.ศ. 1114

divider

อัตชีวประวัติ 14 มะฮ์ซูม[บทที่ 4] ตอน การถือกำเนิดศาสดามุฮัมมัด ศ.

นักประวัติศาสตร์อิสลามได้บันทึกไว้ว่า ในวันซึ่ง อับดุลมุฏฏอลิบ ได้แลกชีวิตบุตรชายของตัวเองด้วยกับอูฐ 100 ตัว เพื่อหนทางของพระผู้เป็นเจ้าโดยที่อายุของ อับดุลลอฮ์ ยังไม่ถึง 20 ปี  นักประวัติศาสตร์บันทึกเรื่องนี้ไว้ว่า ในวันหนึ่งขณะที่        อับดุลมุฏฏอลิบกำลังขุดตาน้ำ   “ซัมซัม” อยู่ ในใจของท่านก็ง่วนคิดคำนึงถึงชีวิตของตัวเอง ซึ่งในขณะนั้นท่านยังไม่มีบุตรเลยและทำให้ท่านคิดว่านั้นคือความอ่อนแอของท่านในหมู่ชาวกุเรช ท่านจึงให้สัตย์สาบานต่อตัวเองว่า หากท่านมีบุตรชายถึง 10 คน ท่านจะเชือดบุตรหนึ่งคนเพื่อทำกุรบาน ณ บัยตุลลอฮ์

วันเวลาผ่านไปไม่นานพระองค์ก็ทรงประทานบุตร 10 คนให้แก่อับดุลมุฏฏอลิบและนั้นก็หมายถึงท่านจะต้องทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้ ท่านจึงนำเรื่องดังกล่าวไปปรึกษาลูกๆจนในที่สุดก็ได้รับการยินยอมจากบุตรของท่านด้วยกับการใช้วิธีการจับฉลากหาชื่อผู้ที่จะต้องสละชีพเพื่อปฏิบัติตามคำสัตย์สาบานของผู้เป็นบิดา ท่านอัลดุลมุฏฏอลิบได้ทำการเสี่ยงทายระหว่างลูกๆของเขา และผลของการเสี่ยงทายในทุกๆครั้งก็ตกไปอยู่ที่อับดุลลอฮ์บิดาของท่านศาสนทูตแห่งพระองค์

อับดุลมุฏฏอลิบได้นำตัวลูกชายของเขาไปที่กะบะฮ์เพื่อที่จะเชือดเขา ผู้คนที่อยู่ที่นั่นก็ได้พบเห็นเขา และพวกเขาก็พูดกับอับดุลมุฏฏอลิบว่า เกิดอะไรขึ้นกับสติปัญญาของท่านที่จะเชือดลูกชายของตนเอง ? ทำใมไม่ไปหาโหรทำนายและปรึกษาเขาในเรื่องของนี้สิ  อับดุลมุฏฏอลิบจึงได้ไปหาโหรผู้นั้น เขาก็กล่ซึ่งเขาก็กล่าวว่า จงให้การเสี่ยงทายเกิดขึ้นระหว่างอับดุลลอฮ์และอูฐ 100 ตัว และหากว่าการเสี่ยงทายได้ตกไปอยู่ที่อูฐท่านจะได้ไม่ต้องฆ่าลูกชายของท่านและหลังจากการเสี่ยงทายอับดุลลอฮ์ก็ได้รอดพ้นและอับดุลมุฏฏอลิบ ก็ได้เชือดอูฐ 100 ตัว เพื่อเป็นการรักษาสัญญาการบนบานของเขาที่ได้ทำเพื่ออัลลอฮ์ เหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้  อับดุลลอฮ์เป็นที่รู้จักและกล่าวขานกันในหมู่ชาวกุเรช และเป็นบุคคลที่มีเกียรติและเป็นที่รักในหมู่ชาวกุเรชและตระกูลบนีฮาชิมเป็นต้นมา

การแต่งงานของ อับดุลลอฮ์ กับพระนาง อามีนะฮ์

อับดุลลอฮ์ เป็นบุตรคนโปรดของอับดุลมุตฏอลิบ เมื่ออายุได้สิบเจ็ดปีได้เข้าสู่พิธีสมรสกับอามีนะฮ์ บินติ วะฮับ  บิน อับดุลมะนาฟ สตรีที่มีชาติตระกูล  อับดุลลอฮ์มิได้ถูกกำหนดมาให้มีอายุยืนนานนัก เขาเสียชีวิตภายหลังจากการสมรสของท่านเพียงเจ็ดเดือนเท่านั้น

นักประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า หลังจากอับดุลลอฮ์แต่งงานกับพระนางอามีนะฮ์ไม่นานนัก เขาก็ได้เดินทางไปยังซีเรียพร้อมกับกองคาราวานเพื่อการค้าขาย ซึ่งเมื่อเสียงระฆังแห่งการเดินทางได้เริ่มขึ้นอับดุลลอฮ์ได้นำหัวใจ อีกหลายร้อยดวงเดินทางร่วมไปกับท่านด้วยซึ่งในช่วงขณะนั้นเอง ท่านหญิงอามีนะฮ์ได้ตั้งครรภ์พอดี หลังจากผ่านไปหลายเดือนข่าวการกลับมาของกองคาราวานก็ได้กระจายไปทั่วมักกะฮ์ ทุกคนต่างรอคอยการกลับมาของผู้นำในครอบครัวซึ่งรวมไปถึงบิดาที่แก่ชราและภรรยาของท่านอับดุลลอฮ์ด้วย แต่เมื่อกองคาราวานมาถึงกลับไม่พบร่องรอยของอับดุลลอฮ์ หลังจากการไต่ถามบุคคลทั้งสองได้รับข่าวว่าระหว่างการเดินทางกลับอับดุลลอฮ์ได้เกิดการเจ็บป่วยขึ้นที่เมืองยัษริบจึงปลีกตัวเองออกจากกองคาราวานเพื่อพักรักษาตัว ข่าวนี้สร้างความตกใจให้กับบุคคลทั้งสองเป็นอย่างมาก

อับดุลมุฏฏอลิบได้มอบหมายให้บุตรชายคนโต(ฮาริษ)ไปยังยัษริบเพื่อนำตัว อับดุลลอฮ์ กลับมาแต่เมื่อเขาไปถึงยิษริบกลับได้รับข่าวการเสียชีวิตของอับดุลลอฮ์ หลังจากกองคาราวานจากไปเพียง 1 เดือน ฮาริษจึงกลับมายังมักกะฮ์และแจ้งข่าวร้ายให้แก่ผู้เป็นบิดาและภรรยาของอับดุลลอฮ์ทราบ ข่าวนี้สร้างความเสียใจให้กับ บุคคลทั้งสองเป็นอย่างมาก

กำเนิดศาสดามุฮัมมัด ศ.

ท่านศาสดามุฮัมมัด ศ. เกิดที่นครมักกะฮ์ ประเทศซาอุดิอารเบีย ซึ่งเป็นประเทศที่ตั้งอยู่แถบตะวันออกกลาง เกิดเมื่อเวลาเช้าตรู่ของวันที่ 17 เดือนร่อบีอุ้ลเอาวัล ปีช้าง ซึ่งตรงกับ พ.ศ. 1114

บิดา ของท่านชื่อ อับดุลลอฮ์ เป็นบุตรของอับดุลมุฏฏอลิบ บุตรของฮาชิม บุตรของอับดุลมะนาฟ บุตรของกุศ็อย บุตรของกิลาบ

มารดา ของท่านชื่อ อะมีนะฮ์ บุตรของวะฮับ บุตรของอับดุลมะนาฟ บุตรของชุรอฮ์ บุตรของกิลาบ  ดังนั้นบิดาและมารดาของท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ็อลฯ)เป็นต้นตระกูลเดียวกัน คือเผ่ากุเรช

ท่านหญิงอามีนะฮ์ ได้กล่าวว่า ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ว่าเมื่อบุตรชายของฉันได้สัมผัสกับพื้นดินเขาได้ท้าวพื้นดินด้วยมือทั้งสองข้างของเขาโดยเงยศรีษะขึ้นสู่ฟากฟ้า ต่อจากนั้นได้มีแสงรัศมีพวยพุ่งออกมาจากตัวฉัน ทำให้เกิดความสว่างไสวแผ่ปกคลุมไปทั่ว  และในท่ามกลางแสงสว่างนั้นฉันได้ยินเสียงผู้กล่าวขึ้นว่า  “ แท้จริงเจ้าได้ให้กำเนิดนายของมวลมนุษย์ ดังนั้นจงตั้งชื่อเขาว่า มุฮัมมัด ”(ผู้ได้รับการสรรเสริญ)

 เมื่อท่านอับดุลมุฏฏอลิบ ผู้เป็นปู่ได้ทราบข่าวการเกิด จึงได้รีบไปเพื่อเชยชม นางอามีนะฮ์มารดาของท่านศาสดาได้เล่าถึงสิ่งเหล่านั้นให้เขาฟัง อับดุลมุฏฏอลิบได้อุ้มเด็กน้อยวางไว้บนตัก และกล่าวว่า          “ มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิแด่พระองค์ ผู้ซึ่งทรงประทานเด็กน้อยผู้บริสุทธิ์ผู้นี้ให้แก่ข้าพระองค์โดยที่เขาได้เป็นนายเหนือเด็กน้อยทั้งหลายตั้งแต่เขาอยู่ในเปล ”

        บิดาของท่านเสียชีวิตในขณะท่านอยู่ในครรภ์มารดา และต่อมามารดาของท่านก็เสียชีวิตอีก ในขณะที่ท่านมีอายุได้ 6 ปี ท่านศาสดาจึงได้ไปอยู่กับคุณปู่ของท่าน คือ “อับดุลมุฏฏอลิบ” ตั้งแต่บัดนั้น

เรื่องราวที่น่าพิศวงในช่วงการถือกำเนิดของศาสนทูตแห่งพระผู้เป็นเจ้า

ทุกช่วงการดำเนินชีวิตของบุรุษผู้ยิ่งใหญ่นั้นน่าค้นคว้าศึกษาอย่างละเอียด บางทีบุคลิกภาพของคนคนหนึ่งมีความยิ่งใหญ่และกว้างขวางตลอดทุกช่วงแห่งการดำเนินชีวิต แม้กระทั่งช่วงที่ถือกำเนิดก็มีเรื่องราวที่น่าพิศวง และเช่นกันในช่วงเวลาการถือกำเนิดของท่านศาสดาแห่งอิสลาม ได้มีปรากฏการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นในชั้นฟ้าและพื้นพิภพ อันแสดงให้เห็นเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าโลกนี้ได้ถึงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่แล้ว บางเหตุการณ์เหล่านั้นคือ

1-  ราชวังอันยิ่งใหญ่ของกษัตริย์อนูชีราวานแห่งเปอร์เซียได้สั่นไหว และระเบียงตำหนักจำนวนสิบสี่แห่งได้พังทลายลงมา

2- วิหารไฟของชาวเปอร์เซียซึ่งลุกโชติช่วงมาเป็นเวลาอันยาวนานต้องดับมอดลงในทันทีทันใด

3- น้ำในทะเลสาบซอเวฮ์ได้เหือดแห้งลง

4- บรรดาเจว็ดในวิหารของมักกะฮ์ล้มคลืนลงมา

5- มีรัศมีพวยพุ่งอยู่เหนือท้องฟ้า ซึ่งเห็นได้ไกลเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร

6- ท่านศาสดาเกิดมาพร้อมกับการขลิบปลายอวัยะเพศ และตัดสายสะดือเรียบร้อยแล้ว